วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Ep4:: : Pronoun ไอ ยู วี เดย์ ฮี ชี อิท!!!

     เข้าสู่ Episode 4 กับหัวข้อของ pronoun กันแล้วค่ะ ที่จริงหัวข้อนี้เพิ่งได้มีโอกาสสอนกันในคลาสผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนร่วมงานกันนี่แหล่ะ ก็เฮฮากันไป ได้ความรู้กันไป สอนไป ก็แอบคิดขึ้นมาได้ว่า เออน้า...เวลาเราเรียน pronoun ในสมัยประถมเนี่ย ทำไมครูถึงไม่สอนให้ครบทั้งตาราง ในครั้งเดียว แต่กลับต้องมาเรียนแยกกัน เทอมนี้เรียน subject กับ object pronoun  พอเรียนชั้นใหม่ค่อยมาเรียน possessive ขยับไปอีกชั้นนึงค่อยมาเรียน reflexive pronoun เอ้!!! ก็ไม่เข้าใจเนอะ?? ทำไมไม่เรียนให้จบในคลาสเดียว หรือเทอมเดียวไปเลย ที่เราพูดแบบนี้ เพราะเรารู้สึกว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้ เราจะให้จบในครั้งเดียวก็ได้ อีกอย่างเด็กสมัยนี้หัวไวนะ (จากกลุ่มเด็กๆ ที่สอนอยู่ทุกวันนี้) เค้าเรียนรู้ได้ ก็เลยกลายเป็นว่า เมื่อไรที่เราจะสอนเด็กใหม่ๆ สักคน ก็จะเริ่มจากท่องกริยา 3 ช่อง เรียน pronoun chart แล้วค่อยเข้าสู่บทเรียน Grammar ทั่วๆ ไป ใครที่สอนพิเศษกันอยู่ละก็ เทคนิคนี้ต้องจัดนะคะ ^^
     อย่างที่เคยเกริ่นไว้ใน Episode 1 (English for the beginners ทำ grammar ให้เป็นเรื่องกล้วยๆ) ว่า concept สำหรับเรา (คนเดียว...555+) ในการเรียนภาษาอังกฤษ ต้องยกเรื่อง pronoun ให้เป็น unit ต้นๆ เพราะจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปใช้แต่งประโยคในอนาคตค่ะ 
เริ่มจาก pronoun chart ก่อนเลย!



Pronoun ก็คือคำสรรพนามในภาษาไทยค่ะ แบ่งออกเป็น 3 บุรุษเหมือนกันด้วย คือ
1st person = สรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนผู้พูด มี 2 ตัวคือ I (ฉัน) กับ we (เรา + คนอื่นๆ)
2nd person สรรพนามบุรุษที่ 2 ใช้แทนผู้ฟัง มีแค่ตัวเดียวคือ you โดย you อาจเป็นคนคนเดียว (คุณ) หรือหลายคนก็ได้ (พวกคุณ) 
3rd person = สรรพนามบุรุษที่ 3 ใช้แทนบุคคลที่ 3 หรือบุคคลที่ถูกกล่าวถึง มีทั้งหมด 4 ตัว คือ he (เขาผู้ชาย), she (หล่อนผู้หญิง), it  (มัน) และ they (พวกเขา)

personal pronoun หรือคำสรรพนามที่ใช้เป็นประธาน (subject) และกรรม (object)
ที่มา:
 https://www.proprofs.com/flashcards/cardshowall.php?title=personal-pronouns_1

ทีนี้จาก pronoun chart มาดูกันค่ะว่า pronoun แต่ละตัวทำหน้าที่อะไรกันบ้าง 
1. Subject pronoun คือ pronoun ที่ทำหน้าที่เป็นประธานหรือคนที่ทำกริยาในประโยค เวลาใช้ก็จะวางไว้หน้ากริยา 
2. Object pronoun คือ pronoun ที่เป็นกรรม แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ กรรมของกริยา (วางหลังกริยา) และกรรมของคำบุพบท (preposition) (วางหลัง preposition เช่น to, from, by, with, etc.) 
I love you. 
She loves him. 
He loves them. 
We gave it to her.
3. Possessive adjective คือคำคุณศัพท์ที่ทำหน้าที่ขยายคำนาม โดยแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม ถึงจะเป็น adjective แต่ส่วนนี้จะถูกรวมอยู่ใน pronoun chart ด้วย เวลาเอาไปใช้ ให้วางไว้หน้าคำนามเสมอ เพราะตำแหน่งของ adjective ในประโยคจะต้องไว้หน้าคำนาม (หรือตามหลัง verb to be/ Linking verb
4. Possessive pronoun เป็น pronoun ที่ใช้แทนการเป็นเจ้าของของคำนาม เวลาเอาไปใช้จึงไม่ต้องตามหลังด้วยคำนามเหมือน possessive adjective (ซึ่งใช้ขยาย) ที่สำคัญการแสดงความเป็นเจ้าของด้วย possessive pronoun ยังสามารถใช้เป็นประธานหรือกรรมของประโยคได้ด้วย แต่จะมีข้อสำคัญในการนำไปใช้ก็คือ "เมื่อไม่ต้องมีคำนามตามหลัง การจะใช้ possessive pronoun จะต้องพูดถึงคำนามมาแล้วครั้งหนึ่ง"



Possessive pronoun (ในช่องที่ 1 ด้านขวามือสุด)
ที่มา: https://www.blendspace.com/lessons/-Uljoc1tB8w0fA/pronouns

5. Reflexive pronoun คือคำสรรพนามที่เราใช้เพื่อเน้นย้ำการกระทำของประธาน บอกให้รู้ว่ากริยาในประโยคนั้น ประธานเป็นผู้กระทำด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่มักจะวางหลังกริยาหรือหลังกรรม 




Hey!!!!!!
เราจบ pronoun แล้วค่ะทุกคนนนนน.. 
เราจะเรียนไปแล้วไม่มีประโยชน์ ถ้าเราเอาไปใช้ไม่เป็น เพราะฉะนั้น เราคิดว่าเราจะแขวนแบบฝึกหัดไว้ให้ลองทำกันด้วย ถ้าไง ฝากติดตามด้วยน้า



อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ถ้ายังไม่เข้าใจ รู้สึกปวดหัวแล้ว พักสายตาแล้วมาอ่านใหม่ก็ได้นะคะ เราเชื่อว่าทุกคนทำได้ ขยันกันต่อไปนะคะ



     เจอกันใหม่ class หน้า until we meet again สวัสดีค่าา^^





@@Kade ^____^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เมื่อต้องใช้ present simple และ present continuous tense

ในหัวข้อนี้นะคะ ถ้าใครเปิดมาเพื่ออ่าน blog นี้เลย แต่อาจจะอยากจะทราบ detail ของทั้งสอง tense นี้ ให้ตามไปอ่านเนื้อหาพร้อมกับแบบฝึกหัดใน ...